แม้จะนำทีมเปิดบ้านยำใหญ่เกงค์ไปแบบมโหฬารถึง 4-0 พร้อมคว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกไปได้สำเร็จ แต่สุดท้ายชะตาของเทรนเนอร์มือทองอย่าง “พี่แจ้” คาร์โล อันเชลอตติ ก็ไม่ได้อยู่รอดปลอดภัยนะครับ เมื่อให้หลังจากที่ทีมผ่านเข้ารอบได้ไม่นาน บอร์ดบริหารของสโมสรนาโปลีก็จัดการเชือด ปลดอันเชลอตติออกจากตำแหน่งอย่างไม่รอรี โทษฐานที่เขาทำผลงานในลีกไม่เป็นไปตามเป้าอย่างที่วางไว้ ส่งผลให้อันเช่กลายเป็นกุนซือมือทองที่ตกเก้าอี้ไปอีกคนในช่วงเวลานี้
นับตั้งแต่เปิดซีซั่น 2019-20 มายังไม่พ้นครึ่งทางดี มีกุนซือมือดีหลายคนเหลือเกินครับที่ต้องตกงานไปอย่างที่หลายต่อหลายคนไม่คิดฝัน ซึ่งนั่นทำให้ในตลาดหน้าหนาวนี้ นอกจากการจับตามองการย้ายทีมของบรรดานักเตะชื่อดังแล้ว ก็น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการจับตามองการโยกไปคุมทีมใหม่ของบรรดากุนซือมือดีทั้งหลายที่ตกงานไปเมื่อครึ่งซีซั่นแรก ส่วนจะมีใครกันบ้างนั้นลองไปไล่ดูกันครับ
1.คาร์โล อันเชลอตติ
คนแรกก็ตามนี้เลยครับ กุนซือมือเก๋ามากประสบการณ์และความสำเร็จ คุมทีมใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปมาหมดแล้ว ทั้งกัลโช่เซเรียอา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลีกเอิงฝรั่งเศส ลาลีกาสเปน และบุนเดสลีกาเยอรมัน และทีมที่เขาคุมก็เป็นระดับบิ๊กเนมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นยูเวนตุส, เอซี มิลาน, เชลซี, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค และล่าสุดก็คือนาโปลีนี่แหละ
อันเชลอตติโดดเด่นเรื่องความวินัย ความเฮี้ยบ และทรงฟุตบอลที่มีความสมดุลระหว่างรุกและรับ นั่นทำให้เขากวาดแชมป์กับสโมสรที่ได้ไปคุมมากมาย ซึ่งถ้าทีมไหนสักทีมที่ปรารถนาความสำเร็จ ชื่อของอันเชลอตติคือกุนซือบิ๊กเนมที่น่าสนใจจะทาบทามไปคุมทีมอย่างยิ่งยวด
2.อูไน เอเมรี่
ชื่อของอูไนนั้นโดดเด่นขึ้นมาในโลกลูกหนังจากบทบาทของกุนซือผู้นำพาเซบีย่า ทีมกลางค่อนสูงของลาลีกาสเปน คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ยูโรปาลีกได้ถึง 3 สมัยซ้อนชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ด้วยผลงานดังกล่าว เขาจึงถูกดึงไปสู่ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยบอร์ดบริหารหวังให้เขานำพาเปแอสเชก้าวไปคว้าแชมป์ยุโรปอย่างยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้สักครั้ง จนกระทั่งอาร์แซน เวนเกอร์ บรมกุนซือแห่งค่ายปืนโต อาร์เซน่อล ประกาศรีไทร์ อูไนจึงถูกดึงมาสานต่อผลงานที่ไฮบิวรี่ ก่อนที่สุดท้ายจะถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากทำทีมไม่ชนะยาวนานถึง 7 นัดติดต่อกัน
แม้การโยกมาคุมทัพไอ้ปืนใหญ่ของอูไนจะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เขาโดดเด่นก็คือการทำฟุตบอลที่เน้นเกมรุกและมีการต่อบอลที่สวยงาม ซึ่งหากทีมไหนที่ปรารถนาแนวทางฟุตบอลเช่นนี้ ชื่อของอูไนน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยทีเดียว
3.เมาริซิโอ โปเช็ตติโน
สุดยอดกุนซือวัยหนุ่มที่กุนซือมือเก๋าหลายคนต่างยกนิ้วไปในทางเดียวกันว่า เก่งจริง! หลังจากที่ปลุกปั้นเซาแธมป์ตันให้แข็งแกร่งขึ้นมาจนผิดหูผิดตา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ไม่รอช้าที่จะดึงกุนซือวัยหนุ่มคนนี้มาปลุกปั้นสเปอร์ไปสู่การเป็นบิ๊กทีมแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษบ้าง ซึ่งพอชก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อสามารถยกระดับไก่เดือยทองขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับอดีตท็อปโฟว์ของพรีเมียร์ลีกได้อย่างสง่าผ่าเผย จนปัจจุบันกล่าวได้เต็มปากว่า สเปอร์คือหนึ่งในบิ๊กซิกส์ของเกาะอังกฤษอย่างเต็มภาคภูมิ
อย่างไรก็ตาม แม้ผลงานในลีกจะอยู่ในขั้นดี อันดับเกาะติดหัวตารางแทบทุกซีซั่น และมีลุ้นแชมป์อย่างจริงจังอยู่ถึง 2 ซีซั่น แถมด้วยการเข้าชิงศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับลิเวอร์พูลเมื่อปีก่อน (แม้สุดท้ายจะแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย) แต่สุดท้าย เมื่อบอร์ดบริหารปรารถนาความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม บวกกับตัวพอชเองก็เริ่มเหนื่อยและอิ่มตัวกับการคุมสเปอร์ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันซะที สุดท้ายด้วยผลงานการทำทีมที่ดร็อปลงในซีซั่นนี้ ก็ทำให้บอร์ดบริหารตัดสินใจปลดพอชออกจากตำแหน่งในที่สุด
อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่าด้วยฝีไม้ลายมือระดับพอช คงไม่น่าจะตกงานนานเกินไป เพราะมีทีมยักษ์ใหญ่มากมายที่กำลังจ้องมองเขาตาเป็นมัน ไม่ว่าจะเป็นเรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค หรือแม้แต่คู่ข่าวรายเก่าอย่างแมนฯ ยูฯ ก็ยังคงให้ความสนใจในตัวกุนซือหนุ่มคนนี้ไม่น้อย
4.มาร์โก ซิลวา
กุนซือหนุ่มสัญชาติโปรตุกีสที่เก่งกาจในการยกระดับทีมเล็กอาการร่อแร่ สู่การเป็นทีมกลางตารางที่พร้อมล้มทีมใหญ่ได้ทุกเมื่อ ตอนที่ฮัลด์ ซิตี้ แต่งตั้งซิลวาเข้ามาคุมทัพ แฟนบอลฮัลด์เองยังงงๆ อยู่ว่าไอ้หมอนี่มันใครกัน? แต่ทว่าหลังจากที่ซิลวาจัดการยกระดับฮัลด์จากทีมจ่อตกชั้นอาการร่อแร่ ให้กลายมาเป็นทีมกลางตารางฟอร์มแกร่ง บรรดาแฟนๆ ก็ไม่สงสัยในตัวเขาอีกต่อไป และจากผลงานที่โดดเด่น ก็ทำให้เขาได้รับการทาบทามจากวัตฟอร์ด และยกระดับไปสู่การคุมทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ก่อนที่สุดท้ายนั้น ผลงานการคุมทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงินจะไม่ค่อยเป็นไปตามที่บอร์ดบริหารหวังไว้ ทำให้เขามีอันต้องถูกเด้งในที่สุด
ซิลวามีความโดดเด่นตรงการเป็นเจ้าเทคนิคและแทคติคมากมายตามประสากุนซือแดนฝอยทอง เหนือกว่านั้นคือการปลุกปั้นนักเตะให้เติบโตและมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ซึ่งหากทีมไหนที่สนใจในแนวทางใช้งบน้อย แต่ใช้การปลุกปั้นนักเตะเยาวชนหรือนักเตะโนเนมไปสู่การเป็นนักเตะเกรด B หรือเกรด A ชื่อของซิลวาก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
5.กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส
หนึ่งกุนซือจอมพเนจร แต่การันตีเรื่องฝีไม้ลายมือในการคุมทีม ผ่านประสบการณ์การทำทีมมากมายในหลากลีก ทั้งลาลีกาสเปน (เรอัล มาดริด ชุดเยาวชน, เกตาเฟ่, บาเลนเซีย, แอตเลติโก มาดริด, เอสปันญ่อล) ลีกโปรตุเกส (เบนฟิก้า) ลีกสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อัล-อาลี) ซูเปอร์ลีกจีน (เซี่ยงไฮ้ เซิ่นหัว) และพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (วัตฟอร์ด) เรียกได้ว่าประสบการณ์นั้นเหลือๆ เลยทีเดียว
กีเก้นั้นโดดเด่นเรื่องการทำเกมบุกและการสร้างสมดุลภายในทีมตามสไตล์ของกุนซือฝั่งสเปน หากทีมไหนสนใจการทำทีมในสไตล์กระทิงดุ ชื่อของกีเก้ก็ถือว่าน่าสนใจ แถมราคาค่าจ้างยังไม่สูงมากอีกด้วยนะ
FIFATH - เล่น FIFA55 กับน้องปาร์ตี้ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ
