
และแล้วศึกลูกหนังแห่งยุโรปอย่างยูโร 2020 ก็ทำการแข่งขันผ่านรอบแบ่งกลุ่มกันมาจนเสร็จสิ้นหมดทุกกลุ่มแล้วนะครับ จนได้ 16 ทีมสุดท้ายตบเท้าเข้าสู่รอบน็อคเอาท์กันเป็นที่เรียบร้อย ดังที่แฟนบอลก็คงทราบผลการประกบคู่กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน
ถึงตรงนี้เราลองมาวิเคราะห์ทำนายผลในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนี้กันดีกว่า ว่าเกมการแข่งขันทั้ง 8 คู่นั้นใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะตกรอบใครจะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ลองไปทำนายทายทักดูกันครับ…
เบลเยี่ยม VS. โปรตุเกส
ถือเป็นบิ๊กแมตช์คู่หยุดโลกประจำรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ว่าได้ กับการโคจรมาพบกันระหว่างปีศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยี่ยม ที่พ่วงอันดับเวิลด์แรงกิ้งหมายเลข 1 ของโลก เจอกับแชมป์เก่ายูโรเมื่อ 4 ปีก่อนอย่างทีมฝอยทอง โปรตุเกส
ด้านเบลเยี่ยมนั้นโชว์ฟอร์มในรอบแรกรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยมสมราคาเบอร์ 1 ของโลก โดยพวกเขาจัดการคว้าชัยได้ 3 นัดรวด (ชนะรัสเซีย 3-0, ชนะเดนมาร์ก 2-1 และชนะฟินแลนด์ 2-0) เก็บ 9 คะแนนเต็มเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม B ขณะที่โปรตุเกสนั้นค่อนข้างมาแบบทุลักทุเล เพราะเข้าป้ายมาเป็นทีมอันดับ 3 ของกลุ่มเอฟ โดยเป็นหนึ่งใน 4 ทีมอันดับ 3 ของทุกกลุ่มที่มีคะแนนดีที่สุด โดยผลงานของพวกเขาผ่านมาหมดทั้งชนะ เสมอ แพ้ (ชนะฮังการี 3-0, แพ้เยอรมนี 2-4 และเสมอฝรั่งเศส 2-2)
วิเคราะห์ฟอร์มโดยรวมนั้น เบลเยี่ยมดูดีมีภาษีมากกว่า ด้วยรูปแบบการเล่น ทีมเวิร์ค และสตาร์ประจำทีมที่มีความคงเส้นคงวามากกว่าโดยเฉพาะเควิน เดอ บรอยด์ ที่หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในเกมที่ 2 ของทีม และโชว์ฟอร์มระดับโลกได้อย่างน่ากลัว ขณะที่ฝั่งโปรตุเกสนั้นแม้ในปีนี้จะมีตัวเด่นๆ หลายตัว แต่กลับยังเล่นได้เหมือนไม่เข้าฝักเข้าฟอร์มกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะบรูโน่ เฟอร์นันส์ ที่เล่นเหมือนไม่มีแรง (อาจหมดแรงไปแล้วจากการแบกและกรำศึกให้ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 555) ดีโอโก้ โชต้า ที่จัดว่าก็เล่นได้ดี สร้างโอกาสได้เยอะ แต่ก็ใช้โอกาสเปลืองมากเช่นกัน จะมีก็แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจ้าเก่าที่คอยแบกทีมและเป็นตัวความหวังสูงสุดของทีม (รวมไปถึงเรนาโต้ ซานเชส อดีตวันเดอร์คิดตกสวรรค์ ที่ดันกลับมาเล่นได้เด่นแบบสุดๆ อีกครั้งในยูโรหนนี้เหมือนรับประทานเอ็นโกโล่ กองเต้ เข้าไปยังไงยังงั้น 555) ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ต่อให้มีโรนัลโด้ แต่ถ้าตัวขับเคลื่อนเกมรุกของโปรตุเกสไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้ โรนัลโด้ก็ไม่อาจฉายแสงได้เหมือนกัน (เพราะไม่ได้บอลนั่นแหละ 555) ซึ่งใครที่ตามเชียร์โปรตุเกสมาหลายปี จะคุ้นชินกันดีกับสถานการณ์แบบนี้ของทีม คือทีมไม่สามารถขับเคลื่อนเกมได้ และโรนัลโด้ถูกทิ้งไว้แดนหน้าแต่ลำพัง
สำหรับการเจอกันของคู่นี้ ผมจึงมองว่าเบลเยี่ยมมีโอกาสที่จะชนะโปรตุเกสได้ ด้วยฟอร์มการเล่นของทีมที่ดีกว่าและตัวทีเด็ดทีขาดที่แน่นอนกว่า
ทำนายผล : เบลเยี่ยม 3 – 1 โปรตุเกส
อิตาลี VS. ออสเตรีย
คู่นี้แทบไม่ต้องวิเคราะห์อะไรกันมากมายเลย เพราะยูโรปีนี้อิตาลีมาดีเหลือเกิน ดีแบบไร้ที่ติ ดีแบบดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วประมาณนั้นเลย 555
คือเกมรับเหนียวมากถึงมากที่สุด ไม่เสียประตูตลอดทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม (รวมถึงในนัดที่ผ่านๆ มาก่อนจะเข้าสู่ศึกยูโรรอบสุดท้ายนี้ด้วย) เกมรุกดุดันและยิงได้หลายคน (ชนะตุรกี 3-0, ชนะสวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และชนะเวลส์ 1-0) รวมไปถึงสปิริตทีมที่แต่ละคนล้วนมีความมุ่งมั่นดุดันตามประสาคนอิตาเลี่ยนอยู่แล้ว ทำให้อิตาลีกลายเป็นทีมเต็งที่สำนักข่าวหลายสำนักมองว่า ปีนี้พวกเขาสามารถไปถึงแชมป์ได้ง่ายๆ และผมก็มองอย่างนั้นเหมือนกัน
ขณะที่ออสเตรียผ่านเข้ารอบมาในฐานะของรองแชมป์กลุ่ม C ด้วยผลงานชนะ 2 แพ้ 1 (ชนะมาซิโดเนียเหนือ 3-1, แพ้เนเธอร์แลนด์ 0-2 และชนะยูเครน 1-0) ซึ่งหากพูดแบบไม่เม้มไม่กั๊กไม่รักษาน้ำใจกัน ผมก็จะบอกว่า ออสเตรียผ่านเข้ารอบมาได้เพราะโชคดีที่ได้อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งนัก มีแค่เนเธอแลนด์ทีมเดียวเท่านั้นแหละที่จัดว่าแข็งในกลุ่มนี้ ขณะที่มาซิโดเนียเหนือนั้นคือสมันน้อย ขณะที่ยูเครนก็ไม่ใช่ทีมที่แกร่งเหมือนช่วงทศวรรษก่อนแล้ว การที่ออสเตรียรอดมาถึงรอบ 16 ทีมนี้จึงเป็นเรื่องของจังหวะ ดวง โชคที่ดีมากกว่าการมีทีมที่ดี
ดังนั้นไม่ต้องว่าอะไรกันมาก ผมให้อิตาลีชนะออสเตรียสบายๆ
ทำนายผล : อิตาลี 3 – 0 ออสเตรีย
ฝรั่งเศส VS. สวิตเซอร์แลนด์
คู่นี้ก็ค่อนข้างจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคู่อิตาลี VS. ออสเตรีย คือดูยังไงฝรั่งเศสก็เหนือกว่าเยอะ โดยพวกเขาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาในฐานะแชมป์ของกลุ่ม F ซึ่งถือว่าเป็นกรุ๊ปออฟเดด เพราะมีทั้งพวกเขาเอง ฝรั่งเศส มีทั้งทีมอินทรีเหล็ก เยอรมนี และมีทั้งทีมฝอยทอง โปรตุเกส จะมีก็แค่ฮังการีเท่านั้นที่แลดูเป็นสมัยน้อยกลอยใจประจำกลุ่ม (แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วฮังการีก็ไม่ใช่หมูนะ เพราะทำหลายทีมลำบากเอาเรื่องอยู่ทีเดียวกว่าจะเอาชนะพวกเขาได้ ก็ขอซูฮกฮังการีมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) โดยผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของฝรั่งเศสก็ถือว่าค่อนข้างแจ่มแมวสมราคาแชมป์โลกอยู่ แม้จะยังมีบางจุดที่ยังไม่เนี้ยบมาก แต่พวกเขาก็เอาอยู่! ในกรุ๊ปออฟเดดนี้ (ชนะเยอรมนี 1-0, เสมอฮังการี 1-1 และเสมอโปรตุเกส 2-2) และผมก็เชื่อว่าบรรดาขุมกำลังที่พวกเขามีจะเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นในรอบน็อคเอาท์นี้
ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น เข้ารอบมาในฐานะทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม A ด้วยผลงานเสมอเวลส์ 1-1, แพ้ อิตาลี 0-3 และชนะตุรกี 3-1 โดยผลงานของทีมก็ไม่ได้แจ่มว้าวอะไรมากมายนัก ดังนั้นก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะเมื่อพวกเขาต้องโคจรมาพบกับทีมแชมป์โลกทีมล่าสุดอย่างฝรั่งเศส
ผลคู่นี้คือ ฝรั่งเศสอัดทีมจากแดนนาฬิกาไปแบบค่อนข้างสบายเท้า
ทำนายผล : ฝรั่งเศส 2 – 0 สวิตเซอร์แลนด์
โครเอเชีย VS. สเปน
คู่นี้จัดว่าค่อนข้างสูสีทีเดียวในชั่วโมงนี้ คือถ้าแต่ก่อนสเปนก็คงกินขาด แต่ด้วยการเลือกผู้เล่นติดทีมแบบงงๆ เหมือนจะมีการเมืองหน่อยๆ ของหลุยส์ เอ็นริเก้ เทรนเนอร์ทีมชาติสเปน ที่ไม่เลือกผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มดีมาเข้าทีม (โดยเฉพาะผู้เล่นจากเรอัล มาดริด) ด้วยฟอร์มที่บู่ถึงบู่มากที่สุดของกองหน้าประจำทีมอย่างอัลวาโร่ โมราต้า ที่ยังยิงประตูไม่ได้เลยในทัวนาเมนต์นี้ ทั้งๆ ที่มีโอกาสมากมายมหาศาลบานตะไท รวมไปถึงสปิริตทีมโดยรวมที่ยังดูไม่ดีนัก ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ในฐานะของรองแชมป์กลุ่ม E ด้วยผลงานที่ตื้อๆ ตันๆ อั้นๆ กั๊กๆ ยังไงพิกล (เสมอสวีเดน 0-0, เสมอโปแลนด์ 1-1 และชนะสโลวาเกีย 5-0)
ขณะที่โครเอเชีย แม้จะมีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์โลกทีมล่าสุด แต่ต้องยอมรับว่าพวกเขาในชั่วโมงนี้ไม่ได้แกร่งเหมือนเมื่อฟุตบอลโลก 2 ปีก่อนแล้ว นักเตะดาวดังประจำทีมหลายคนอายุอานามร่วงโรยลง ไม่สดไม่ฟิตไม่เปรี้ยงเหมือนเก่าก่อน เห็นได้จากฟอร์มที่ไม่ได้แจ่มว้าวอะไรมากนักในรอบแบ่งกลุ่ม (แพ้อังกฤษ 0-1, เสมอสาธารณรัฐเช็ก 1-1 และชนะสกอตแลนด์ 3-1) ก็พอจะบอกได้ว่า อาจจะหมดช่วงยุคทองของทีมตราหมากรุกไปแล้วแหละ
แม้ทั้ง 2 ทีมจะอยู่ในช่วงบู่หรือยุคมืด แต่ดูจากฟอร์มในทัวนาเมนต์นี้แล้ว ผมเห็นว่าสเปนยังดูมีภาษีและราศีดีกว่าทางโครเอเชียอยู่ ด้วยศักยภาพของตัวผู้เล่นที่สเปนถือว่าเหนือกว่า (โครเอเชียเหมือนกับหมดยุคผู้เล่นชุดหนึ่งแล้วก็จะไม่มีขึ้นมาทดแทนได้เทียบเท่าเก่าเอาเลย) และด้วยระบบทีมที่แลดูสเปนจะเริ่มเข้าที่เข้าทางเร็วกว่าทางโครเอเชีย (นัดสุดท้ายที่ปูพรมถล่มสโลวาเกียไป 5-0 น่าจะเป็นแมตช์จูนความเข้าใจภายในทีม และลองทีมได้เป็นอย่างดีสำหรับสเปน) ทำให้ผมเชื่อว่าจะเป็นทางทีมกระทิงดุที่จะเป็นฝ่ายขวิดไล่ทีมตราหมากรุกไปแบบเหนื่อยหน่อย
สรุป! สเปนชนะ เข้ารอบ
ทำนายผล : โครเอเชีย 1 – 2 สเปน
สวีเดน VS. ยูเครน
ศึกสายเลือกสีเหลือง-น้ำเงิน คู่นี้ถือว่าค่อนข้างสูสี โดยสวีเดนนั้นเขารอบมาแบบโก้หรูดูดีราศีจับ เพราะเป็นถึงแชมป์กลุ่ม E เหนือสเปน ด้วยผลงานที่โอเคเลยสำหรับพวกเขา (เสมอสเปน 0-0, ชนะสโลวาเกีย 1-0 และชนะโปแลนด์ 3-2) โดยเฉพาะเกมรับที่มีวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ คอยคุมเกม ถือว่ามีความเหนียวแน่นรัดกุมลุ่มลึก (กว่าตอนที่เล่นให้ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอามากๆ 555) ชนิดที่ทีมไหนได้เจอก็น่าจะเหนื่อยไม่น้อยกว่าจะทำประตูได้
ขณะที่ยูเครนนั้นเข้ารอบมาในฐานะของทีมอันดับที่ 3 ของกลุ่ม C ด้วยผลงานที่ชนะเพียงนัดเดียว (แพ้เนเธอร์แลนด์ 2-3, ชนะมาซิโดเนียเหนือ 2-1 และแพ้ออสเตรีย 0-1) ด้วยศักยภาพทีมที่นักเตะแทบไม่เป็นที่รู้จักสำหรับแฟนบอลในวงกว้างเลย ด้วยผลงานจังซี่!!! ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่า แม้สวีเดนจะไม่ใช่ทีมที่มีเกมบุกดูดีมีราศีระดับท็อปๆ ของยุโรป แต่ยูเครนก็ไม่ใช่ทีมที่ดีมากนักที่จะต้านทานเกมบุกใครได้
สุดท้ายผมจึงมองว่าจะเป็นฝ่ายสวีเดน ที่อาศัยศักยภาพของผู้เล่นและเกมรับที่เหนียวแน่น เบียดเอาชนะทางฝั่งยูเครนไปได้ในที่สุด ชนิดที่ในเกมก็น่าจะหนืดๆ เหนื่อยๆ เบื่อๆ ง่วงๆ กันไป
ทำนายผล : สวีเดน 1 – 0 ยูเครน
อังกฤษ VS. เยอรมนี
นี่คือคู่ที่ชวนร้องซี้ดดดด…อู้ยยยย…อีกคู่หนึ่งประจำรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นบิ๊กแมตช์อีกคู่เลยก็ว่าได้สำหรับการโคจรมาเจอกันระหว่างทีมสิงโตน้ำเงินคราม อังกฤษ กับทีมชาติอินทรีเหล็ก เยอรมนี
ฝั่งอังกฤษนั้น แม้จะผ่านเข้ารอบมาในฐานะของแชมป์กลุ่มของกลุ่ม D แต่ฟอร์มก็ถือว่าไม่ได้ยอดเยี่ยมชนิดไร้เทียมทาน เพราะยิงได้แบบกระเหม็ดกระแหม่ (ชนะโครเอเชีย 1-0, เสมอสกอตแลนด์ 0-0 และชนะสาธารณรัฐเช็ก 1-0) ชนิดที่เกมรุกมีแต่ความวูบวาบ แต่ประสิทธิภาพยังคงเป็นสิ่งที่ต้องควานหากันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับทีมชาติอังกฤษในยูโรรอบแบ่งกลุ่มนี้ ก็คือ การที่กุนซือใหญ่อย่างแกเร็ธ เซาท์เกธ จัดตัวลงทำศึกแต่ละนัดแบบไม่ฟูลทีมตามความคิดของแฟนบอลและนักข่าวทั่วไป กล่าวคือ เน้นไปทางจัดทัพลูกผสม ลองตัวใหม่ๆ พักตัวเด็ดๆ ไว้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นจาดอน ซานโช่, แจ๊ค กรีลิช หรือแม้แต่มาคัส แรชฟอร์ด ก็ดี ดาวดังเหล่านี้ในรอบบางกลุ่มทั้ง 3 นัดที่ผ่านมามีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองและตัวจริงบางนัดเท่านั้น ซึ่งประเด็นนี้นักข่าวและแฟนบอล รวมไปถึงผู้สันทัดกรณีจากทั่วโลกต่างตั้งคำถามกับเซาท์เกธไม่น้อย ว่าคิดอะไรอยู่? (ถึงขนาดที่โลธ่า มัทเธอุส ออกมาแซวเลยว่า ถ้าเซาท์เกธไม่คิดจะใช้ซานโช่เป็นตัวจริง ถ้าอย่างนั้นเยอรมนีขอโอนสัญชาติให้ซานโช่ไปเล่นให้เยอรมนีดีกว่า 555)
แต่! แต่! แต่! มองในอีกมุมหนึ่งได้ไหมว่า นี่ขนาดอังกฤษยังไม่ใช่ชุดตัวจริงแบบเต็มสูบ ก็ยังสามารถบดเอาชนะคู่แข่งและคว้าแชมป์กลุ่มเข้ารอบมาได้อย่างสวยๆ หล่อๆ ชนิดที่ตัวจริงตัวทีเดียวยังไม่บอบช้ำอะไรมากมายนักเลย ซึ่งมองในมุมนี้ หรือที่จริงแล้วมันอาจเป็นแผนของเซาท์เกธเองก็ได้ ที่ต้องการพักตัวจริงตัวหลักในรอบแบ่งกลุ่มไว้ก่อน เหมือนว่ารอบนี้จัดตัวแบบผสมๆ ก็เอาอยู่! ไว้เข้ารอบแล้วค่อยจัดตัวจริงบู๊แบบเต็มที่
ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ถือว่าอังกฤษปีนี้มีความน่ากลัวแบบเสือซ่อนเล็บทีเดียว ไม่เหมือนกับการเป็นหมูสนามจริงสิงห์สนามซ้อมเหมือนหลาย 10 ปีที่ผ่านๆ มา
ขณะที่ทีมชาติเยอรมนีนั้นเข้าป้ายมาในฐานะของรองแชมป์กลุ่ม F ด้วยผลงานแบบไม่ได้ไร้เทียมทานอะไรมากนัก (แพ้ฝรั่งเศส 0-1, ชนะโปรตุเกส 4-2 และเสมอฮังการี 2-2) ฟอร์มการเล่นของพวกเขาก็ไม่แตกต่างไปจากเดิม ที่เน้นทีมเวิร์ค ความแข็งแกร่งของผู้เล่น และระเบียบวินัยในการเล่นเป็นสำคัญ (จะมีเพิ่มเติมเข้ามาก็คือ ความเร็วของเกมรุกที่ทีมอินทรีเหล็กทำได้ดีมากขึ้นกว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมา) ซึ่งมันอาจจะใช้ได้ดีในบางนัด (เช่นนัดขยี้โปรตุเกสยับเยิน) แต่ก็อาจไปไม่รอดในบางนัด ซึ่งคู่แข่งที่เจอกับเยอรมนีถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะบ่งบอกได้ว่า ทัพอินทรีเหล็กจะเล่นได้ดีหรือแน่แค่ไหน ว่ากันเป็นนัดๆ ไป
การต้องโคจรมาเจอกับทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธ เซาท์เกธในชั่วโมงนี้ เรียกได้ว่าเยอรมนีไม่ได้เปรียบเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ทั้งตัวพวกเขาเองด้วยที่ขุมกำลังดร็อปลงไป ขณะที่อังกฤษแลดูอัพเลเวลมากขึ้น การทำนายผลคู่นี้จึงมีความคู่คี่สูสีอย่างยิ่ง ซึ่งผมมองไปถึงการยืดเยื้อแบบกินกันไม่ลง จนต้องไปจบลงตรงที่การดวลจุดโทษ และสุดท้ายน่าจะเป็นอังกฤษที่เข้าวิน ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้อย่างฉิวเฉียด
ทำนายผล : อังกฤษ 1 – 1 เยอรมนี (สุดท้าย อังกฤษชนะการดวลจุดโทษ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป)
เนเธอแลนด์ VS. สาธารณรัฐเช็ก
ทีมขวัญใจมหาชน กังหันสีส้มมาทำศึกยูโรในปีนี้แบบไม่ใช่ทีมเต็งเท่าไหร่ เพราะขุมกำลังในช่วง 5 ปีหลังมานี้จัดว่าดร็อปลงไปมากหากนับจากผลงานของรุ่นก่อนๆ แม้ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มจะแลดูไฉไล ชนะรวดรัวๆ (ชนะยูเครน 3-2, ชนะออสเตรีย 2-0 และชนะมาซิโดเนียเหนือ 3-0) จนคว้าตำแหน่งแชมป์กลุ่ม C มาครองได้แบบหล่อๆ แต่ก็สามารถกล่าวได้ว่า นั่นเป็นเพราะพวกเขายังไม่เจอของจริง! เพราะออสเตรีย ยูเครน หรือมาซิโดเนียเหนือนั้นเกรดบอลต่ำกว่าเนเธอร์แลนด์มากโขอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทัพอัศวินสีส้มจะบดขยี้คู่แข่งและกำชัยจนสามารถเข้ารอบมาได้แบบหล่อๆ
พูดง่ายๆ ก็คือ เนเธอแลนด์ชั่วโมงนี้ตบเด็กได้ แต่ถ้าเจอของจริงก็โดนตบได้ง่ายๆ เหมือนกัน
แต่ทว่า! ทว่า! ทว่า! คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของพวกเขาอย่างสาธารณรัฐเช็ก ก็ยังไม่ใช่ทีมของจริงชนิดที่พร้อมจะตบเนเธอร์แลนด์ให้คว่ำได้เหมือนกัน เช็กนั้นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาในฐานะของทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม D ด้วยผลงานแบบก็ดีนะ! (ชนะสกอตแลนด์ 2-0, เสมอโครเอเชีย 1-1 และแพ้อังกฤษ 0-1) แต่ก็ยังไม่เห็นราศีหรือวี่แววที่พวกเขาจะไปได้ไกลเกินกว่ารอบนี้เท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมาเจอกับทีมอัศวินสีส้มด้วยแล้ว เช็กยังไม่มีทีเด็ดมากพอที่จะฝ่าด่านทัพอัศวินไปได้ และน่าจะปราชัยไปแบบนิ่มๆ
ทำนายผล : เนเธอร์แลนด์ 2 – 0 สาธารณรัฐเช็ก
เวลส์ VS. เดนมาร์ก
มาถึงคู่ที่ 8 คู่สุดท้ายในรอบ 16 ทีมนี้ โดยทีมมังกรแดงอย่างเวลส์ ฝ่าด่านคำปรามาสของสื่อหลายสำนัก ด้วยการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาด้วยฐานะรองแชมป์กลุ่ม A แต่ผลงานของพวกเขาก็ไม่ได้เจิดจรัสรัศมีอะไรมากมายนัก ก็คือยังเป็นผลงานแบบเวลส์ๆ นั่นแหละ (เสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1, ชนะตุรกี 2-0 และแพ้อิตาลี 0-1) คือเสมอทีมระดับเดียวกัน ชนะทีมเล็กกว่าได้ และไปไม่เป็นเมื่อเจอกับทีมใหญ่ แต่ด้วยบริบทของกลุ่ม A ที่มันเป็นอย่างนี้ ก็เลยทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้ตามมาตรฐานการเล่นของตัวเอง
ขณะที่เดนมาร์ก หลังจากเจอเหตุการณ์ช็อกโลกในนัดแรก ที่คริสเตรียน อิริคเซ่น เกิดหัวใจวายล้มพับไปกลางสนาม นั่นย่อมเป็นเหตุการณ์ที่บั่นทอนกำลังใจและขวัญของทีมโคนมเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เดนมาร์กในปีนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเวลส์ ที่เข้ารอบมาได้ด้วยบริบทของกลุ่ม (แพ้ฟินแลนด์ 0-1, แพ้เบลเยียม 1-2 และชนะรัสเซีย 4-1) ทำให้ชัยชนะนัดเดียวในนัดสุดท้าย ส่งให้พวกเขาสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม B และเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แบบงงๆ
สำหรับคู่นี้ ผมมองว่าแม้เดนมาร์กจะขาดคีย์แมนคนสำคัญอย่างคริสเตียน อิริคเซ่น ไป แต่พวกเขาก็ยังมีคลาสที่ดีกว่าทีมชาติเวลส์ และน่าจะเป็นเดนมาร์กนี่แหละที่จัดการเชือดทีมมังกรแดงไปได้แบบนิ่มๆ และเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
ทำนายผล : เวลส์ 0 – 2 เดนมาร์ก
และทั้งหมดนั้นก็คือการวิเคราะห์ภาพรวมของทั้ง 8 คู่ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูโร 2020 ซึ่งสุดท้ายจะแม่นหรือจะไม่แม่น ต้องรอติดตามชมกันต่อไปนะครับ.

FIFATH - เล่น FIFA55 กับน้องปาร์ตี้ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ