สรุปประเด็นฮอตพรีเมียร์ลีก week2

FIFA55 FIFATH

ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษซีซั่นใหม่ 2020/2021 เปิดฉากมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว และสัปดาห์ที่ผ่านมาทุกทีมก็ได้ฤกษ์เปิดสนามกันครบทั้ง 20 ทีม โดยบางทีมอาจเตะไปแล้ว 2 นัด ขณะที่บางทีมเพิ่งได้ลงเตะไปนัดเดียว แต่ก็พอที่จะเห็นประเด็นหลายๆ อย่างที่ชวนช้อนเก็บตกมาพูดคุยกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปชมกัน…

-ผ่าน 2 นัด จิ้งจอกนำฝูง

ทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปิดหัวซีซั่นใหม่ด้วยชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 แต้มเต็ม แม้จะเท่ากันกับทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน, ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล, หงส์แดง ลิเวอร์พูล และปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ แต่ผลต่างประตูได้เสียของทีมจิ้งจอกสยามดีกว่าทุกทีมที่กล่าวมา ทำให้พวกเขาขึ้นแท่นนำจ่าฝูงไปแบบหล่อๆ อย่างน้อยก็หนึ่งสัปดาห์

-เอฟเวอร์ตันยุคใหม่เปิดตัวสวย

เป็นอีกทีมที่ทำผลงานช่วงเปิดสนามซีซั่นใหม่ได้อย่างไฉไลไม่น้อยทีเดียว สำหรับท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ของโคตรกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่โมดิฟายและรีสตาร์ททัพลูกอมยุคใหม่จนไฉไลขึ้น จนสามารถเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด ขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงแบบสวยๆ ขณะที่ตัวนักเตะเองก็โดดเด่นไม่น้อย ทั้งฮาเมส โรดริเกซ สตาร์ลูกหนังชาวโคลัมเบียที่ไม่เป็นที่ต้องการของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แต่กลับกลายมาเป็นเทพเจ้าคนใหม่ของเหล่าพลพรรคลูกอมสีน้ำเงิน หลังจากโชว์ฟอร์มเพลย์เมกเกอร์ระดับโลก นำทัพเอฟเวอร์ตันโชว์ฟอร์มได้อย่างดุดันและแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับโดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน ดาวรุ่งของทัพลูกอมที่โชว์ฟอร์มเปิดซีซั่นใหม่ได้อย่างเทพสุดๆ ด้วยการกดไปแล้ว 4 ตุงจากการลงสนาม 2 นัด และหนึ่งในนั้นคือการทำแฮตทริกใส่เวสต์บรอมวิชในนัดที่ 2 ทำให้พลพรรคเอฟเวอร์ตันโมเมนตัมติดลมบนอยู่ในชั่วโมงนี้

-หงส์จะค่อยๆ บินสูงขึ้นเรื่อยๆ

นัดเปิดสนามของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ทำท่าว่าจะง่าย กลับเกือบกลายเป็นหล่มติดขา เมื่อทีมคู่ต่อกรอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด เล่นดีแบบโคตรๆ จนเกือบจบลงด้วยผลเสมอ ก่อนที่พลพรรคเดอะค็อปจะมาได้จุดโทษช่วงท้ายเกมเป็นประตูชัยให้เฉือนชนะไปแบบหืดจับ

กระทั่งนัดที่ 2 ที่หงส์แดงต้องมาเจอบิ๊กทีมอย่างสิงโตน้ำเงินตาม เชลซี ที่เสริมทัพมาแบบโหดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ แต่การณ์ก็กลับกลายเป็นไม่ยากเท่าที่คิด เมื่อลิเวอร์พูลจัดการกำราบทัพสิงโตน้ำเงินครามไปแบบเบาะๆ 2-0 ชนิดที่ทำให้แฟนๆ สิงโตน้ำเงินคราม หงอยเหงาเศร้าทรวงกันลงไปเยอะทีเดียว

ดูทรงของลิเวอร์พูลแล้ว ยังคงมีความแข็งแกร่งและความเขี้ยวเพียงพอที่จะลุ้นป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ได้ และน่าจะเหมือนเครื่องดีเซลที่ค่อยๆ ติดและขับเคลื่อนอย่างดุดันไปในระยะยาวๆ แข่งกับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาดิโอล่า ได้อย่างสนุกคู่คี่

-สิงห์เสียขวัญ

แฟรงค์ แลมพาร์ด เสริมทัพต้อนรับซีซั่นใหม่อย่างบ้าคลั่ง ทุ่มคว้าดาวดังจากทั่วยุโรปมาจนคับทีม ทั้งฮาคิม ซิเยค (ราคา 40 ล้านยูโรจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในลีกฮอลแลนด์) ติโม แวร์เนอร์ (ราคา 47.5 ล้านปอนด์จากแอร์เบ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกาเยอรมนี) ไค ฮาเวิร์ตซ์ (ราคา 62 ล้านปอนด์จากทีมห้างขายยา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในบุนเดสลีกาลีกเยอรมัน) ติอาโก ซิลวา (เซ็นฟรีจากเปแอสเช ปารีส แซงต์แชร์แมง ในลีกเอิง) เบน ชิลเวลล์ (ราคา 50 ล้านปอนด์จากทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมร่วมลีก) มาล็อง ซาร์ (เซ็นฟรีมาจากนีซ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส) รวมไปถึงว่าที่นายทวารตัวล่าสุดอย่างเอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูของแรนส์ ในลีกเอิงฝรั่งเศส ที่มีข่าวว่าเชลซีได้ดีลกับนีซลุล่วง และนักเตะพร้อมจะบินมาชูเสื้อในเร็ววันนี้แล้ว

ด้วยการเสริมทัพขนาดนี้ ทำให้แน่นอนว่าแฟนบอลของทีมสิงโตน้ำเงินครามย่อมจะต้องคาดหวังผลงานระดับอ๋องจากแฟรงค์ แลมพาร์ด และขุนพลนักเตะของทีม แต่ทว่าหลังจากพ่ายแพ้ให้แก่ลิเวอร์พูลไป 2-0 ก็ทำให้แฟนบอลของเชลซีเสียขวัญกำลังใจไปพอสมควร แม้ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นนั้นจะมาจากความผิดพลาดส่วนตัวของนายประตูจอมปัญหาอย่างเกปา อาร์ริซาบาลาก้า แต่ก็ต้องมองด้วยว่า เกมรุกของเชลซีเองก็ไม่มีศักยภาพพอที่จะสามารถจัดการลงโทษหงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้เหมือนกันทั้งๆ ที่มีผู้เล่นในแนวรุกระดับท็อปของยุโรปอยู่เต็ม

อย่างไรก็ตาม มองในแง่ดีก็อาจได้ว่า เพราะเพิ่งเปิดซีซั่นใหม่มาได้แค่ 2 สัปดาห์ และนักเตะทั้งหมดก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในทีมไม่ถึงเดือน (บางรายก็เดือนกว่า) ดังนั้นการสร้างความเข้าใจร่วมของทีมและความเข้าขาเข้าเท้าอาจจะยังไม่เนียนสนิทเท่าไหร่นัก ต้องลองให้เวลาแฟรงค์ แลมพาร์ด จัดการจูนแผนให้แก่นักเตะอีกสักพัก ฟอร์มและความเข้าขาเข้าเท้าของนักเตะอาจมีมากขึ้น

-“เคน & ซน” คู่หูยิงจ่าย

การเตะนัดที่ 2 ของทีมไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ของโฆเซ่ มูรินโญ่ ที่จัดการถล่มแบบปูพรมใส่ทีมนักบุญแดนใต้ เซาแธมป์ตัน ไปเละเทะ 5-2 นั้น ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ที่การประสานงานอย่างสุดยอดของคู่หูแดนหน้าอย่างแฮร์รี่ เคน และซน เฮือง มิน ที่เป็นเคนซึ่งเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นตัวยิง หันมาจ่ายให้ซนยิงแทน ซึ่งในนัดดังกล่าวนั้นเคนจ่าย 4 และซนก็ยิง 4 ถือเป็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยมและน่าเป็นห่วงแทนกองหลังเพื่อนร่วมลีกเสียเหลือเกิน

-ยูงทองมาแบบดีเกินคาด

ทีมยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด เพิ่งได้เลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษหลังจากต้องไปตกระกำลำบากอยู่ในลีกล่างถึง 19 ปีเต็ม ซึ่งก็ตามประสาของทีมน้องใหม่ที่เพิ่งได้เลื่อนชั้นขึ้นมา หลายๆ ฝ่ายก็มองว่าไม่แคล้วลีดส์เองก็คงต้องลุ่มๆ ดอนๆ อยู่กับการเก็บคะแนนหนีตกชั้น แต่ทว่าต้องให้เครดิตกับโคตรกุนซืออย่างมาร์เซโล่ บิเอลซ่า ที่สามารถสร้างทีมและจัดวางแผนการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนนัดแรกนั้นทัพยูงทองสามารถสร้างความปัสสาวะเหนียวให้แก่พลพรรคหงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้อย่างจั๋งหนับ ชนิดที่ว่ากว่าหงส์จะเบียดชนะไปได้ 4-3 นั้นก็ต้องอาศัยลูกจุดโทษช่วงท้ายเกม กระทั่งมาในนัดที่ 2 ทัพยูงทองก็ยังไม่มีคำว่าฟลุค เมื่อจัดการกำราบอดีตเพื่อนร่วมศึกเดอะแชมเปี้ยนส์ชิพอย่างฟูแล่มไปได้ด้วยสกอร์เดียวกับนัดแรกกับลิเวอร์พูล แต่สลับด้าน โดยลีดส์เอาชนะฟูแล่มไปได้ 4-3 ถือเป็นฟอร์มการเล่นที่เซอร์ไพร์สและน่าจับตามองมากจริงๆ

อย่างไรก็ตาม แม้จะโชว์ฟอร์มยิงประตูได้ดี แต่ที่น่าเป็นห่วงสำหรับทัพยูงทองก็คือ การเล่นเกมรับ ที่แผงหลังเสียประตูเฉลี่ยนัดละ 3 ลูก แสดงให้เห็นถึงความ “ยังไม่พร้อม” ของกองหลัง ที่ทางบิเอลซ่าต้องรีบจัดการแก้ปัญหาเป็นการด่วน ไม่อย่างนั้นต่อให้กองหน้ายิงได้เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้ากองหลังยังพร้อมเสียประตูได้ตลอดเวลานัดละหลายๆ ลูกเช่นนี้ การลุ้นคะแนนในแต่ละนัดก็คงลำบากและเหนื่อยเกินไป

-อนาคตที่ดูหม่นๆ ของน้าโอเล่

แม้จะผิดหวังไม่น้อยกับตลาดนักเตะ ที่เล็งนักเตะเขาไปทั่ว แต่กลับได้มาเพียงคนเดียวคือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค จากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่เชื่อว่าแฟนๆ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คงคาดหวังฟอร์มดีๆ แบบซีซั่นก่อนในช่วงเปิดสนามรอนักเตะใหม่ที่ (หวังว่า) จะมาในอนาคต

แต่การณ์ก็กลับกลายเป็นว่า งานที่ไม่น่ายากอย่างปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ กลับกลายเป็นของแข็งที่พุ่งชนจนปีศาจแดงแพ้พ่ายในนัดประเดิมสนามซีซั่นใหม่ไปอย่างหมดท่า 1-3 ชนิดที่ทางผู้เล่นปีศาจแดงเล่นกันไม่ออก สู้ไม่ได้กันเลยทีเดียว

แต่ที่น่าหงุดหงิดใจมากกว่าฟอร์มการเล่นของนักเตะ ก็คือทีท่าของกุนซืออย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ดูขาดแพสชั่นในการแก้เกมให้ลูกทีมอย่างยิ่ง แม้จะถูกยิงนำและฟอร์มการเล่นในสนามจะดูตื้อตัน ทำอะไรไม่ออกบอกอะไรไม่ถูก แต่โอเล่ก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีการออกมากระตุ้นลูกทีมหรือแก้เกมข้างสนามอย่างที่กุนซือของทีมที่สกอร์ตามหลังอยู่พึงกระทำ รวมไปถึงแผนการเล่นที่ดูไร้ซึ่งความสร้างสรรค์ ก็ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงกลับมาตั้งคำถามกับตัวกุนซือรายนี้กันอีกครั้ง

FIFATH LINE

FIFATH - เล่น FIFA55 กับน้องปาร์ตี้ แจกเครดิตลองเล่น ฟรี 100 บาท
สอบถามเพิ่มเติมหรือต้องการสมัครสมาชิก กดที่ปุ่มเพิ่มเพื่อนด้านล่างได้เลยค่ะ

Comments

comments